ได้สกิลใหม่ทุกครั้งหลังถูกขับไล่ ผ่านมา 100 โลก ก็ไม่มีใครสามารถเทียบฉันได้

ชื่อไทย : ฉันได้สกิลใหม่ทุกครั้งหลังจากถูกขับไล่ และหลังจากผ่านมา 100 โลก ก็ไม่มีใครสามารถเทียบฉันได้ชื่อเดิม : Tsuihousareru Tabi ni Skill wo Te ni Ireta Ore ga, 100 no Isekai de 2-shuum e Musouชื่อมังงะ : 追放されるたびにスキルを手に入れた俺が、100の異世界で2周目無双ทุกครั้งที่ถูกไล่ออกจากโลกอื่น ๆ ฉันได้รับทักษะ ฉันเล่นรอบที่สองใน 100 โลกอื่น ๆ ที่ไม่มีใครชนะได้สกิลใหม่ทุกครั้งหลังถูกขับไล่ ผ่านมา 100 โลก ก็ไม่มีใครสามารถเทียบฉันได้ ตอนที่ 18 และ 19 ที่มีเนื้อหาต่างไปจากในนิยาย เพราะมีเนื้อหาเล่าถึงกลุ่มปาร์ตี้ผู้กล้าหลังจากเอสจากไปและปราบราชาปีศาจสำเร็จ ซึ่งไม่ได้ถูกกล่าวถึงในนิยาย [นิยายแปล] ฉันได้สกิลใหม่ทุกครั้งหลังจากถูกขับไล่ และหลังจากผ่านมา 100 โลก ก็ไม่มีใครสามารถเทียบฉันได้(ทุกครั้งที่ถูกไล่ออก ฉันได้รับทักษะใหม่ ฉันสามารถทำได้ใน 100 โลกที่แตกต่าง 2 รอบ ฉันเป็นผู้ที่ไม่สามารถถูกเอาชนะได้)และแนวคิดในการเขียนนิยายเรื่องนี้โดยอ้างอิงเรื่องเล่า ของพระเจ้าเจ้าเล่ห์ กับเทพปีศาจผู้ถูกพระเจ้าปู้ยี่ปู้ยำ ปีศษจผู้มียูนีคสกิล “ยุติทุกสิ่ง” ว่าท้ายที่สุดและเนื้อเรื่องจะนำพาไปถึงบทสรุปของ ปีศาจได้ใช้ ยูนีคสกิล “ยุติทุกสิ่ง” กับพระเจ้าผู้แพนิคกับยุติทุกสิ่งหรือไม่??”กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีราชาปีศาจตนหนึ่ง ผู้ที่มีพลังที่จะ “ยุติทุกสิ่ง ” และพระเจ้าก็รู้สึกหวาดกลัวอย่างมากกับการดำรงอยู่ของตัวตนที่ชื่อราชาปีศาจ เพราะในท้ายที่สุดมันมีพลังที่จะ “ยุติทุกสิ่ง” ไม่เพียงแต่โลกที่พระเจ้าสร้างเท่านั้น แม้แต่ตัวตนของพระเจ้าเองก็อาจจะถูกมัน “ยุติ” ลงได้เช่นกันราชาปีศาจไม่ได้แสดงความเป็นศัตรูต่อพระเจ้า หรือ พยายามยามทำลายล้างสิ่งใด แต่พระเจ้าไม่อาจยอมรับกับความจริงที่ว่า มีตัวตนหนึ่งที่สามารถคุกคามตนเองได้ เขาจึงสั่งให้ราชาปีศาจต่อสู้กับตน หลังจากผ่านการต่อสู้อันแสนเจ็บปวดและยาวนานในที่สุดพระเจ้าก็สามารถเอาชนะราชาปีศาจตนนั้นได้พระเจ้าสามารถเอาชนะราชาปีศาจได้ แต่ไม่อาจทำลายราชาปีศาจได้ เพราะพลังในการ “ยุติทุกสิ่ง” เป็นของราชาปีศาจไม่ใช่ของพระเจ้าดังนั้นพระเจ้าจึงดึงเอาพลังและความทรงจำจากวิญญาณของราชาปีศาจ แบ่งออกเป็น 100 ชิ้น และกระจัดกระจายไปตามโลกต่างๆ ยิ่งไปกว่านั้น ดวงวิญญาณของราชาปีศาจผู้ซึ่งสูญเสียทั้งเจตจำนงและพลัง จะถูกผนึกไว้ใน “มิติสีขาวชั่วนิรันดร์” ที่แม้แต่กาลเวลาก็ไม่อาจเคลื่อนไหวได้แต่ถึงกระนั้นพระเจ้าก็ยังไม่สบายใจ ทั้งนี้เพราะจิตวิญญาณและพลังที่แต่เดิมเคยเป็นหนึ่งเดียวกันนั้นดึงดูดเข้าหากัน และวันหนึ่งพวกเขาอาจข้ามเขตแดนของโลกและกลับสู่สภาพเดิมได้แล้วพระเจ้าก็คิดได้ว่า ถ้าหากว่าเราไม่สามารถทำลายราชาปีศาจด้วยตัวเองได้ แต่เราสามารถย้อมดวงวิญญาณของราชาปีศาจด้วยความสิ้นหวัง เพื่อว่าสักวันหนึ่งเมื่อเขาได้พลังที่จะ “ยุติทุกสิ่ง” กลับคืนมา ราชาปีศาจจะปรารถนาที่จะ “หายไปด้วยตัวเอง” เมื่อกลไกดังกล่าวถูกสร้างขึ้น ในที่สุดราชาปีศาจก็จะทำลายตัวเองโดยที่พระเจ้าไม่ต้องทำอะไรหลังจากนั้น… พระเจ้าได้ดำเนินความคิดที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้โดยไม่มีความลังเลใดๆจากนั้นพระเจ้าก็ฝังความทรงจำปลอมของมนุษย์เข้าไปในจิตวิญญาณของราชาปีศาจผู้โง่เขลาและไร้เดียงสาตามแผนการของเขา มอบร่างกายที่เปราะบางให้กับเขา และกำหนดให้มีการทดลอง กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ “หากคุณต้องการกลับไปยังโลกที่คุณเกิด ให้ไปเยี่ยมชมโลกที่แตกต่างกัน 100 แห่งและถูก ‘เนรเทศ’ ในทุกโลก”สัญชาตญาณของราชาปีศาจที่ “อยากกลับไป” ถูกแทนที่ด้วยความคิดที่ว่า “อยากกลับบ้าน” และวิญญาณของราชาปีศาจซึ่งถูกแปรสภาพเป็น “ตุ๊กตาตัวตลก” เดินทางข้ามโลกต่าง ๆ อย่างสิ้นหวังและได้รับความทุกข์ทนอย่างแสนสาหัสที่ว่า “คุณจะถูกต้องถูกเนรเทศในทุกๆโลก”ดวงวิญญาณของราชาปีศาจที่น่าสงสาร ผู้ถ่อมตนและต้องคอยติดตามผู้กล้าเพื่อไปกำจัดชิ้นส่วนพลังของตัวเขาเอง แต่ขาดแม้แต่สามัญสำนึกของโลก นับประสาอะไรกับพลังในการต่อสู้ ถูกรังเกียจและดูหมิ่นในทุกๆโลกที่เขาได้ไป ด้วยความคิดที่ว่า “ฉันต้องการกลับไปที่โลกที่ฉันจากมา” และทำภารกิจของตัวเองต่อไปและในที่สุด ดวงวิญญาณของราชาปีศาจผู้ซึ่งถูกเนรเทศจากโลกต่างๆ กว่า 100 โลก ก็มอดไหม้ด้วยความทรงจำปลอมๆ เมื่อเขาคิดถึงบ้านเกิดของเขาที่ไม่มีอยู่จริงและพอเขาเดินผ่านประตูไป ความทรงจำทั้งหมดของเขาก็จะถูกลบออกไป มีเพียงร่างของตุ๊กตาตัวตลกที่ถูกทำลายและกลับคืนสู่สภาพเดิมใช่แล้ว มันเป็นวัฏจักรนิรันดร์ โศกนาฏกรรมและความทุกข์ทรมานที่ไม่มีวันจบสิ้นได้ถูกมอบให้กับราชาปีศาจผู้สูญเสีย “พลังที่จะยุติทุกสิ่ง” เฉกเช่นที่โลกที่เกิดจากหินสุดท้ายก็ต้องกลับกลายมาเป็นหิน ดวงวิญญาณของราชาปีศาจยังคงถูกปฏิเสธและถูกเนรเทศจากมนุษย์ เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าเป็นจำนวนครั้งที่มากกว่าจำนวนดวงดาวในเอกภพความทรงจำของราชาปีศาจได้หายไปแล้ว แต่ความคิดด้านมืดที่ติดอยู่ในจิตวิญญาณของเขาจะไม่จางหาย ในตอนท้ายของการทำซ้ำที่ยาวนานนับอนันต์ ชิ้นส่วนพลังของเขาก็ค่อยๆรั่วไหลออกจากโลกทีละเล็กละน้อยและสะสมไว้จนในที่สุดก็จะออกผลผลิบานเป็นลูกแก้วใน “มิติสีขาวนิรันดร์”นี่คือพลังที่จะตอบสนองความต้องการใดๆก็ตามของผู้ที่มีพลังในการ “ยุติทุกสิ่ง” หากดวงวิญญาณของราชาปีศาจหมดเรี่ยวแรงที่จะเดินทางต่อ และปรารถนาให้ตนเองถูกทำลาย ทุกอย่างจะเป็นไปตามแผนการของพระเจ้าที่จะให้ราชาปีศาจทำลายตัวเองด้วยพลังของเขาเองแต่จิตวิญญาณของราชาปีศาจไม่เป็นเช่นนั้น วิญญาณของราชาปีศาจซึ่งได้รับบุคลิกที่ไม่ได้ถูกขับเคลื่อนด้วยความโกรธหรือการแก้แค้น ดังนั้นจิตวิญญาณของราชาปีศาจซึ่งแม้แต่พระเจ้าก็ทำลายไม่ได้ ถึงแม้จะเพียงเล็กน้อยกว่าที่พระเจ้าคาดการณ์ไว้ แต่มันก็แข็งแกร่งกว่าที่เคยจิตวิญญาณของราชาปีศาจนั้น ไม่ได้คิดเกี่ยวกับการหลีกหนีจากความเป็นจริงที่แสนเจ็บปวด หรือคิดเกี่ยวกับการให้ตัวตนที่ไร้ประโยชน์ของเขาหายไป เขาปรารถนาเพียง “ฉันต้องการที่จะแข็งแกร่งขึ้นเพื่อที่จะได้ไม่สร้างปัญหาให้กับผู้อื่น และช่วยเหลือผู้ที่เคยช่วยเหลือฉัน” มันมีเพียงแค่นี้ด้วยเหตุนี้ วิญญาณของราชาปีศาจก็ได้ยุติ “ความไร้พลังของตัวเอง” และรับเอาพลังส่วนหนึ่งที่ถูกเก็บไว้ในลูกแก้วมาใช้เป็นพลังของตัวเอง และจากวันนั้นเป็นต้นมา แผนการที่สมบูรณ์แบบของพระเจ้าก็เริ่มแตกออกทีละเล็กละน้อย..”การเดินทางที่ไม่คาดคิด ฉันที่ได้ฝึกทักษะไว้บนมือ สามารถทำลายได้ทั้ง 100 โลกที่มีอยู่ใน 2 ชุดในโลกที่ไม่ใช่โลกนี้ 200 ครั้งทุกครั้งที่ถูกไล่ออกจากโลกอื่น ๆ ฉันได้รับทักษะ ฉันได้เล่นในโลกอื่น ๆ ครั้งที่สอง ทำลายทุกอย่าง 100 โลกอื่น ๆ ฉันทำลายทุกอย่างครั้งที่สองสรุป ฉันที่ได้ฝึกทักษะบนทางที่ไม่แน่นอน 100 โลกที่ไม่ใช่โลกนี้ ฉันชนะได้ 2 ครั้งทหารที่ถูกไล่ออกจากทีมผู้กล้าในโลกอื่น ๆ 100 แห่ง คือ จอห์น ได้รับทักษะการไล่ออกที่มีกำลังมากกว่าทุกครั้งที่ถูกไล่ออก จนที่สุดเขากลายเป็นตัวละครที่ทรงพลังที่สุด!เอดที่อย่างนั้น รู้ว่าโลกที่เขาถูกไล่ออกมีที่สุดท้ายที่น่าเศร้า เขาที่เคยเป็นเพื่อนกับเด็กเอลฟ์ ที่ชื่อเทีย ที่เขาต้องช่วยเหลือ ที่เขาทำให้ตัวเองเป็นที่แข็งแกร่งที่สุด แล้วเขาเริ่มต้นใหม่ แล้วเขากลับไป攻略 100 โลกที่แตกต่างกันอีกครั้ง!!”2 อาทิตย์ที่ 2 ใช้ทักษะที่ฉลาดและทักษะที่เหนือกว่า 100 ครั้ง อย่างเต็มที่ เพื่อทำลาย 100 โลกที่แตกต่างกัน ให้กลับมาใหม่ ทำให้เข้มแข็งและเริ่มเกมใหม่ นับถือเรื่องราวการสำรวจโลกที่แตกต่างกัน!”